โรคภัยไข้เจ็บเกิดจากมูลเหตุตาม พระไตรปิฎก คือ 1. กรรม 2. จิต 3. พลัง 4. ร่างกายและอาหาร
การไหลเวียนของพลังชีวิต (ลมปราณ) ที่ผ่านแต่ละอวัยวะนั้นจะใช้เวลา 2 ชั่วโมง ทั้งหมดมี 12 อวัยวะ รวม 24 ชั่วโมง เรียกว่า '' นาฬิกาชีวิต biological clock ''
ช่วงเวลา ระบบที่เกี่ยวข้อง ข้อควรปฎิบัติ......
01.00-03.00 น. ตับ นอนหลับพักผ่อนให้หลับสนิท ตับจะหลั่งสาร melatonin ฆ่าเชื้อโรคทำให้หน้าอ่อนกว่าวัย(ตับ หน้าที่หลัก คือ ขจัดสารพิษในร่างกาย)
03.00-05.00 น. ปอด ตื่นนอน สูดอากาศบริสุทธ์ผู้ที่ตื่นนอนในช่วงนี้เป็นประจำปอดจะดี ผิวดีขึ้น และจะเป็นคนที่มีอำนาจในตัว
05.00-07.00 น. ลำไส้ใหญ่ ขับถ่ายอุจจาระ ถ้าไม่ถ่ายให้ใช้วิธีกดจุดที่ตำแหน่งสองข้างของจมูก...ถ้ายังไม่ถ่ายให้ดื่ม น้ำอุ่น 2 แก้ว....
07.00-09.00 น กระเพาะอาหาร กินอาหารเช้าในช่วงนี้ทุกวัน กระเพาะอาหารจะแข็งแรง.... ถ้าปล่อยให้กระเพาะอาหารอ่อนแอ จะส่งผลให้เป็นคนตัดสินใจช้า ขี้กังวล ขาไม่ค่อยมีแรง ปวดเข่า หน้าแก่เร็วกว่าวัย
09.00-11.00 น. ม้าม พูดน้อย กินน้อย .... ม้ามหน้าที่ควบคุมเม็ดเลือด สร้างน้ำเหลือง ควบคุมไขมัน คนที่ปวดศีรษะบ่อยมักมาจากความผิดปกติของม้าม
---ม้ามโต ม้ามจะไปเบียดปอด ทำให้เหนื่อยง่าย ผอมเหลือง ตาเหลือง สร้างเม็ดเลือดขาวได้น้อย
---ม้ามชื้น อาหารและน้ำที่กินเข้าไปจะแปรสภาพเป็นไขมันจึงทำให้อ้วนง่าย
ผู้ที่นอนหลับในช่วงเวลา 09.00 – 11.00 น. ม้ามจะอ่อนแอ .....ม้ามยังโยงถึงริมฝีปาก ผู้ที่พูดบ่อย ๆ หรือพูดเก่ง ๆ ม้ามจะชื้น จึงควรพูดน้อย กินน้อย ม้ามจึงจะแข็งแรง
11.00-13.00 น. หัวใจ หลีกเลี่ยงความเครียดทั้งปวง...หัวใจทำงานหนักในช่วงเวลานี้
13.00-15.00 น. ลำไส้เล็ก งดกินอาหารทุกปะเภท... เพื่อให้ลำไส้ทำงาน ดูดซึมสารอาหาร.... ผู้หญิงมีลำไส้ยาวกว่าผู้ชาย 11 ฟุต เพื่อให้การดูดซึมได้นานกว่าเนื่องจากต้องใช้กรดอะมิโนมากกว่าผู้ชาย เมื่อมีลำไส้ยาวกว่าจึงมีกระดูกซี่โครงมากกว่าผู้ชายข้างละ 1 ซี่
15.00-17.00 น. กระเพาะปัสสาวะ ทำให้เหงื่อออก ( ออกกำลังกายหรืออบตัว ).... กระเพาะปัสสาวะจะเกี่ยวข้องกับระบบความจำ ไทรอยด์และระบบเพศทั้งหมด
17.00-19.00 น. ไต ทำให้สดชื่น ไม่ง่วงเหงาหาวนอนในช่วงเวลานี้ ผู้ใดมีอาการง่วงนอนช่วงเวลานี้แสดงว่ามีปัญหาเรื่องไตเสื่อม
- ไตซ้าย จะคุมสมองด้านขวา ควบคุมด้านความคิดสร้างสรรค์ อารมณ์สุนทรีย์ รักสวยรักงาม ชอบแต่งตัว ....ถ้าไตซ้ายมีปัญหา อารมณ์รักสวยรักงามจะหมดไป กลายเป็นคนปล่อยเนื้อปล่อยตัว และเป็นคนขี้ร้อน
- ไตขวา จะคุมสมองด้านซ้าย ซึ่งควบคุมด้านความจำ ...ถ้าไตขวามีปัญหาความจำจะเสื่อม และเป็นคนขี้หนาว ( ผู้ที่ไตแข็งแรงจะเป็นคนที่มีอายุยืน เป็นคนกล้า )
19.00-21.00 น. เยื่อหุ้มหัวใจ ทำสมาธิหรือสวดมนต์ช่วงเวลานี้....ปัญหาเกี่ยวกับเยื่อหุ้มหัวใจ คือหัวใจโต หัวใจรั่ว เส้นโลหิตหัวใจตีบ
21.00-23.00 น. ระบบความร้อนของร่างกาย ห้ามอาบน้ำเย็น ห้ามตากลม ทำให้ร่างกายอบอุ่นจึงห้ามอาบน้ำในช่วงเวลานี้ เพราะจะทำให้เจ็บป่วยได้ง่าย
23.00-01.00 น. ถุงน้ำดี ดื่มน้ำก่อนเข้านอน ....อวัยวะใดในร่างกายเมื่อขาดน้ำ จะมาดึงน้ำจากถุงน้ำดี ทำให้ถุงน้ำดีข้น เป็นผลให้อารมณ์ฉุนเฉียว สายตาเสื่อม เหงือกจะบวม ปวดฟัน นอนไม่หลับ ตื่นกลางดึก หรือตอนเช้าจะจาม ปวดศีรษะข้างเดียวหรือสองข้างโดยไม่ทราบสาเหตุ
--------------------------------------------------------------------------------
วันอังคารที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2552
บทความดี ๆ มาฝาก...
คุณทำได้... หากคุณคิดว่า... คุณทำได้
มีคำกล่าวว่า We are what we think as we think so we become คุณเป็นอย่างที่คุณคิด หากคุณคิดว่าคุณทำได้ คุณก็จะทำได้สำเร็จ จากการศึกษาผู้ที่ประสบความสำเร็จในโลกนี้พบว่าทุกคน มีคุณสมบัติของความเชื่อมั่นศรัทธาในตนเองจัดเป็นคุณลักษณะที่สำคัญยิ่ง
กลยุทธ์การสร้างความเชื่อมั่นศรัทธาในตนเอง
1. พึ่งตนเองได้ " อัตตาหิ อัตตาโน นาโถ " หมั่นฝึกตนช่วยเหลือตนเองให้มากที่สุด
ก่อนจะร้องขอให้ผู้อื่นช่วย เพราะหากเราไม่ช่วยตนเองแล้วยากที่ใครจะมาช่วยเรา และจะเป็น
การ ตัดโอกาสและความก้าวหน้าของตนเองอย่างน่าเสียดาย เพราะไม่ได้พัฒนาความสามารถอย่างเต็มที่ ดังนั้นจงช่วยตนเองอย่างเต็มความสามารถ แล้วคุณจะพบว่าคุณสามารถทำได้ด้วยตนเอง
2. รู้จักตนเอง พยายามรู้จักตนเองให้ดีที่สุดด้วยการสำรวจตัวเองว่า มีจุดดี จุดด้อย จุดเด่นอะไรบ้าง จะปรับจุดด้อยให้ดีขึ้นได้อย่างไร ใช้จุดเด่นของตนให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองและผู้อื่นได้อย่างไร และยอมรับตนเองในฐานะมนุษย์ ซึ่งมีความสามารถ พลัง ค้นให้พบ
หาให้เจอ พลังที่ซุกซ่อนอยู่ภายในตัวและนำมาใช้ให้เต็มที่ พร้อมกันนั้นก็ยอมรับจุดอ่อนที่มีหลังจากได้พยายามปรับแล้ว เพราะทุกคนก็ย่อมมีจุดแข็งจุดอ่อน " นี่คือมนุษย์ "
3. ศรัทธาในตนเอง นับถือตนเองเชื่อในความสามารถของตนเอง ไม่ดูถูกเหยียดหยามตนเอง เพราะคุณจะเรียกศรัทธาจากผู้อื่นได้ก็ต่อเมื่อคุณศรัทธาเชื่อถือตนเอง ดังคำพูดที่ว่า " คุณทำได้หากคุณเชื่อว่าคุณสามารถทำได้ " ทุกข์ สุข อยู่ที่ความคิดของคุณเอง " ไม่มีใครจะนำความสุขความสำเร็จมาให้คุณนอกจากตัวคุณเอง"
4. กำจัดความกลัว ความกลัวเป็นอุปสรรค์ต่อความสำเร็จและทำให้ไม่กล้าทำอะไร เพราะกลัวว่าจะทำได้ไม่ดีจะผิดพลาดแต่คนที่ไม่เคยทำอะไรเลย ก็จะไม่มีความผิดพลาดเกิดขึ้น ส่วนคนที่ทำงาน โอกาสสำเร็จและผิดพลาดก็ย่อมจะมีบ้างเป็นธรรมดาแต่หากทำดีที่สุดแล้ว อะไรจะเกิดขึ้นก็ต้องยอมรับและไม่กลัวที่จะปรับปรุงให้ดีขึ้น พึงคิดเสมอว่า " ทำไม่ดี ไม่มี มีแต่ยังไม่ได้ทำหรือยังทำดีไม่มากพอ " การลงมือทำเป็นเรื่องสำคัญ อย่าได้กลัวที่จะลงมือทำ ดังที่ว่า
อย่าเพียงแต่ดู จงลงมือทำ
อย่าเพียงแต่พูด จงลงมือทำ
อย่าเพียงแต่กลัว จงลงมือทำ
ลงมือทำทันที เดี๋ยวนี้เท่านั้น
และหากยังคงมีจิตใจกลัวและหวาดหวั่นต่อคำวิพากษ์วิจารณ์ ก็ให้บอกกับตนเองว่า
คนที่ดีที่สุด ยังไม่เกิดขึ้น
คนเก่งที่สุด ยังไม่เกิดขึ้น
แต่ฉันนี่แหละคือคนเก่ง คนที่ดีที่สุดที่จะต้องสร้างสรรค์ และจัดการทำให้ได้ ดังนั้น จงขจัดความกลัว และเพิ่มความกล้า ให้คุณมีก้าวแรกเกิดขึ้นให้ได้ และก้าวต่อไปไม่ยาก ดังที่ว่า " ร้อยลี้พันลี้ ไม่สำคัญเท่าลี้แรก "
5. การมีชีวิตอยู่กับปัจจุบัน เมื่อจะทำสิ่งใดให้ใส่ใจเอาใจจดจ่อกับสิ่งที่ทำ รวมพลังความคิดลงสู่การกระทำในขณะนั้นไม่ห่วงหน้า พะวงหลัง หรือยึดติดกับอดีต กังวลกับอนาคต แต่มุ่งใจให้เป็นหนึ่งเดียวกับเวลาปัจจุบัน ทำเรื่องใดก็สนใจทุ่มเท มีสมาธิและจดจ่ออยู่กับสิ่งนั้นดังที่ว่า " ถอดหัวใจให้สิ่งที่ทำ " ณ เวลานั้น
6. คิดในทางบวก พยายามคิดในเรื่องที่ดีที่ทำให้เป็นสุขเกิดพลังใจ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นให้คิดว่าเป็นประสบการณ์เป็นสิ่งที่ดี ที่ทำให้เราเติบโตขึ้น แกร่งขึ้น และเพิ่มพูนประสบการณ์ ตัวอย่าง เพลงของเบิร์ด " ผิดเป็นครู " อกหักทำให้รู้จักชีวิตมากขึ้น ให้หัดคิดเปลี่ยนปัญหาอุปสรรคให้กลายเป็นความสำเร็จมองวิกฤตให้เป็นโอกาสและ เปลี่ยนปัญหาให้เป็นการพัฒนา
7. ปลูกฝังอุปนิสัยที่ดี การที่เราจะมีการเชื่อมั่นศรัทธาในตนเองได้ ก็ต้องฝึกฝน เสริมสร้างและสั่งสมนิสัยที่ดี เช่น เป็นผู้มีความหวังเสมอ พรุ่งนี้ยังมีวันใหม่ให้ก้าวเดิน ความไม่กลัวต่อความลำบาก จิตใจเข้มแข็ง ต่อสู้ กล้าหาญ อดทน ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค เพียรพยายามอย่างสม่ำเสมอ ไม่ประมาท เกิดเป็นคนไม่ควรขลาดกลัว จงเก่งกาจ กล้าหาญชาญชัย
ขอฝากความคิดสะกิดใจเพื่อเพิ่มพลังสู่ความสำเร็จ
" ถ้าคุณคิดว่าคุณพ่ายแพ้ คุณจะพ่ายแพ้ ถ้าคุณคิดว่า คุณไม่กล้า คุณจะไม่กล้า ถ้าคุณต้องการที่จะชนะ แต่คุณคิดว่าคุณไม่อาจชนะ เกือบจะ แน่นอนว่าคุณจะไม่ชนะ ถ้าคุณคิดว่าคุณย่อยยับคุณจะย่อยยับ " เพราะว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในโลกนี้ ความสำเร็จเริ่มต้นด้วยความต้องการของคนผู้นั้นทั้งหมด มันขึ้นอยู่กับท่าทีของจิตใจ ถ้าคุณคิดว่าคุณแพ้ยับเยิน คุณจะเป็นเช่นนั้น คุณจะต้องคิดให้สูงเพื่อที่จะยกตัวของคุณให้สูงขึ้น
คุณจะต้องเชื่อถือในตัวของคุณเองก่อน ก่อนที่คุณจะชนะ รางวัลสงครามชีวิตมิได้อยู่ที่ผู้ที่แข็งแรง หรือเร็วกว่าเสมอไปแต่ในที่สุดไม่เร็วก็ช้า คนที่ชนะคือคนที่คิดว่าเขาทำได้
ที่มา : http://sa.sa.ku.ac.th
มีคำกล่าวว่า We are what we think as we think so we become คุณเป็นอย่างที่คุณคิด หากคุณคิดว่าคุณทำได้ คุณก็จะทำได้สำเร็จ จากการศึกษาผู้ที่ประสบความสำเร็จในโลกนี้พบว่าทุกคน มีคุณสมบัติของความเชื่อมั่นศรัทธาในตนเองจัดเป็นคุณลักษณะที่สำคัญยิ่ง
กลยุทธ์การสร้างความเชื่อมั่นศรัทธาในตนเอง
1. พึ่งตนเองได้ " อัตตาหิ อัตตาโน นาโถ " หมั่นฝึกตนช่วยเหลือตนเองให้มากที่สุด
ก่อนจะร้องขอให้ผู้อื่นช่วย เพราะหากเราไม่ช่วยตนเองแล้วยากที่ใครจะมาช่วยเรา และจะเป็น
การ ตัดโอกาสและความก้าวหน้าของตนเองอย่างน่าเสียดาย เพราะไม่ได้พัฒนาความสามารถอย่างเต็มที่ ดังนั้นจงช่วยตนเองอย่างเต็มความสามารถ แล้วคุณจะพบว่าคุณสามารถทำได้ด้วยตนเอง
2. รู้จักตนเอง พยายามรู้จักตนเองให้ดีที่สุดด้วยการสำรวจตัวเองว่า มีจุดดี จุดด้อย จุดเด่นอะไรบ้าง จะปรับจุดด้อยให้ดีขึ้นได้อย่างไร ใช้จุดเด่นของตนให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองและผู้อื่นได้อย่างไร และยอมรับตนเองในฐานะมนุษย์ ซึ่งมีความสามารถ พลัง ค้นให้พบ
หาให้เจอ พลังที่ซุกซ่อนอยู่ภายในตัวและนำมาใช้ให้เต็มที่ พร้อมกันนั้นก็ยอมรับจุดอ่อนที่มีหลังจากได้พยายามปรับแล้ว เพราะทุกคนก็ย่อมมีจุดแข็งจุดอ่อน " นี่คือมนุษย์ "
3. ศรัทธาในตนเอง นับถือตนเองเชื่อในความสามารถของตนเอง ไม่ดูถูกเหยียดหยามตนเอง เพราะคุณจะเรียกศรัทธาจากผู้อื่นได้ก็ต่อเมื่อคุณศรัทธาเชื่อถือตนเอง ดังคำพูดที่ว่า " คุณทำได้หากคุณเชื่อว่าคุณสามารถทำได้ " ทุกข์ สุข อยู่ที่ความคิดของคุณเอง " ไม่มีใครจะนำความสุขความสำเร็จมาให้คุณนอกจากตัวคุณเอง"
4. กำจัดความกลัว ความกลัวเป็นอุปสรรค์ต่อความสำเร็จและทำให้ไม่กล้าทำอะไร เพราะกลัวว่าจะทำได้ไม่ดีจะผิดพลาดแต่คนที่ไม่เคยทำอะไรเลย ก็จะไม่มีความผิดพลาดเกิดขึ้น ส่วนคนที่ทำงาน โอกาสสำเร็จและผิดพลาดก็ย่อมจะมีบ้างเป็นธรรมดาแต่หากทำดีที่สุดแล้ว อะไรจะเกิดขึ้นก็ต้องยอมรับและไม่กลัวที่จะปรับปรุงให้ดีขึ้น พึงคิดเสมอว่า " ทำไม่ดี ไม่มี มีแต่ยังไม่ได้ทำหรือยังทำดีไม่มากพอ " การลงมือทำเป็นเรื่องสำคัญ อย่าได้กลัวที่จะลงมือทำ ดังที่ว่า
อย่าเพียงแต่ดู จงลงมือทำ
อย่าเพียงแต่พูด จงลงมือทำ
อย่าเพียงแต่กลัว จงลงมือทำ
ลงมือทำทันที เดี๋ยวนี้เท่านั้น
และหากยังคงมีจิตใจกลัวและหวาดหวั่นต่อคำวิพากษ์วิจารณ์ ก็ให้บอกกับตนเองว่า
คนที่ดีที่สุด ยังไม่เกิดขึ้น
คนเก่งที่สุด ยังไม่เกิดขึ้น
แต่ฉันนี่แหละคือคนเก่ง คนที่ดีที่สุดที่จะต้องสร้างสรรค์ และจัดการทำให้ได้ ดังนั้น จงขจัดความกลัว และเพิ่มความกล้า ให้คุณมีก้าวแรกเกิดขึ้นให้ได้ และก้าวต่อไปไม่ยาก ดังที่ว่า " ร้อยลี้พันลี้ ไม่สำคัญเท่าลี้แรก "
5. การมีชีวิตอยู่กับปัจจุบัน เมื่อจะทำสิ่งใดให้ใส่ใจเอาใจจดจ่อกับสิ่งที่ทำ รวมพลังความคิดลงสู่การกระทำในขณะนั้นไม่ห่วงหน้า พะวงหลัง หรือยึดติดกับอดีต กังวลกับอนาคต แต่มุ่งใจให้เป็นหนึ่งเดียวกับเวลาปัจจุบัน ทำเรื่องใดก็สนใจทุ่มเท มีสมาธิและจดจ่ออยู่กับสิ่งนั้นดังที่ว่า " ถอดหัวใจให้สิ่งที่ทำ " ณ เวลานั้น
6. คิดในทางบวก พยายามคิดในเรื่องที่ดีที่ทำให้เป็นสุขเกิดพลังใจ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นให้คิดว่าเป็นประสบการณ์เป็นสิ่งที่ดี ที่ทำให้เราเติบโตขึ้น แกร่งขึ้น และเพิ่มพูนประสบการณ์ ตัวอย่าง เพลงของเบิร์ด " ผิดเป็นครู " อกหักทำให้รู้จักชีวิตมากขึ้น ให้หัดคิดเปลี่ยนปัญหาอุปสรรคให้กลายเป็นความสำเร็จมองวิกฤตให้เป็นโอกาสและ เปลี่ยนปัญหาให้เป็นการพัฒนา
7. ปลูกฝังอุปนิสัยที่ดี การที่เราจะมีการเชื่อมั่นศรัทธาในตนเองได้ ก็ต้องฝึกฝน เสริมสร้างและสั่งสมนิสัยที่ดี เช่น เป็นผู้มีความหวังเสมอ พรุ่งนี้ยังมีวันใหม่ให้ก้าวเดิน ความไม่กลัวต่อความลำบาก จิตใจเข้มแข็ง ต่อสู้ กล้าหาญ อดทน ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค เพียรพยายามอย่างสม่ำเสมอ ไม่ประมาท เกิดเป็นคนไม่ควรขลาดกลัว จงเก่งกาจ กล้าหาญชาญชัย
ขอฝากความคิดสะกิดใจเพื่อเพิ่มพลังสู่ความสำเร็จ
" ถ้าคุณคิดว่าคุณพ่ายแพ้ คุณจะพ่ายแพ้ ถ้าคุณคิดว่า คุณไม่กล้า คุณจะไม่กล้า ถ้าคุณต้องการที่จะชนะ แต่คุณคิดว่าคุณไม่อาจชนะ เกือบจะ แน่นอนว่าคุณจะไม่ชนะ ถ้าคุณคิดว่าคุณย่อยยับคุณจะย่อยยับ " เพราะว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในโลกนี้ ความสำเร็จเริ่มต้นด้วยความต้องการของคนผู้นั้นทั้งหมด มันขึ้นอยู่กับท่าทีของจิตใจ ถ้าคุณคิดว่าคุณแพ้ยับเยิน คุณจะเป็นเช่นนั้น คุณจะต้องคิดให้สูงเพื่อที่จะยกตัวของคุณให้สูงขึ้น
คุณจะต้องเชื่อถือในตัวของคุณเองก่อน ก่อนที่คุณจะชนะ รางวัลสงครามชีวิตมิได้อยู่ที่ผู้ที่แข็งแรง หรือเร็วกว่าเสมอไปแต่ในที่สุดไม่เร็วก็ช้า คนที่ชนะคือคนที่คิดว่าเขาทำได้
ที่มา : http://sa.sa.ku.ac.th
วันพุธที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2552
วันจันทร์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2552
วันศุกร์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2552
Macromedia DreamWeaver CS3 + Crack
แจกโปรแกรม Macromedia DreamWeaver CS3 พร้อม Crack
ไฟล์มีทั้งหมด 6 part >>> โหลดเสร็จแล้วก้อ Extract ออกมา..
Part ที่ 1
Download Now
Part ที่ 2
Download Now
Part ที่ 3
Download Now
Part ที่ 4
Download Now
Part ที่ 5
Download Now
Part ที่ 6
Download Now
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)